แต่งห้องนอนใหม่…ที่ไม่ใช่แค่สวยเพียงอย่างเดียว
ห้องนอน
ห้องที่สำคัญเป็นอันดับต้น ๆ ของการแต่งบ้านกันเลยทีเดียว แต่จะว่าไปแล้วก็สำคัญเท่า ๆ กันทุกห้องแหละ เพียงแต่ห้องนี้เป็นห้องที่เรียกได้ว่าเป็นห้องส่วนตัว ขึ้นชื่อว่า ส่วนตัวใครๆ ก็ต้องให้ความสำคัญมากกว่าส่วนรวมอยู่แล้วใช่มั้ย เราก็เลยขอนำเสนอการปรับปรุงห้องนอนกันอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เป็นการแก้ปัญหาที่เชื่อว่าหลายคนทื่ซื้อบ้านในโครงการจัดสรร ต้องเจอคล้ายๆกับเรา แล้วเราแก้ปัญหากันอย่างไร อยากรู้ก็ตามมากันเลย
ห้องนอนใหญ่ขนาด 3.5 x 5.5 ม. เป็นโจทย์ที่เราต้องใส่ฟังก์ชัน ของเตียงนอน , ตู้เสื้อผ้า , และส่วนพักผ่อน ลงไปให้ลงตัวที่สุด ซึ่งจริง ๆ แล้วฟังก์ชันเหล่านี้ก็เป็นฟังก์ชันพื้นฐานที่เราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แต่การจัดวางให้ทุก ๆ ส่วนสามารถใช้งานได้จริงและยังคงไว้ซึ่งความงามนั้นต้องบอกว่ายากมาก ๆ ค่ะ เนื่องจากลักษณะห้องเป็นห้องที่ความยาวมีมากกว่าความกว้าง ถึง 2 เท่า จะหยิบจะวางอะไรลงไปตรงไหนก็ดูเหมือนว่าติดขัดไปหมด ดังนั้นเราจึงต้องวางแปลนให้ลงตัวก่อนที่จะตัดสินใจทำอะไรลงไป

ไซด์บอร์ดตู้เตี้ยโครงไม้เนื้อแข็งปิดทับด้วยไม้อัดบางประดับคิ้วและลูกฟักทำสีพ่นขาวกึ่งเงา สไตล์วินเทจ

ไซด์บอร์ดตู้เตี้ยโครงไม้เนื้อแข็งปิดทับด้วยไม้อัดบางประดับคิ้วและลูกฟักทำสีพ่นขาวกึ่งเงา สไตล์วินเทจ
ห้องนอนที่ถูกกำหนดฟังก์ชันแบบบีบบังคับให้ ต้องแยกส่วนของห้องออกเป็น 2 ส่วนเท่านั้น เนื่องจากประตูทางเข้าห้องถูกเจาะไว้เกือบจะกึ่งกลางของด้านยาว ดังนั้นเราจึงมีพื้นที่ 2 ขนาด ใน 1 ห้อง พื้นที่ขนาดใหญ่เราเลือกที่จะวางเตียงนอนลงไปพร้อม ๆ กับ
ไซด์บอร์ดทีวี แต่ในความเป็นจริงถ้าเราวางไซด์บอร์ดไว้ในส่วนนี้เราก็จะไม่สามารถมีตู้ เสื้อผ้าได้อีกเลยในห้องนี้ เพราะถ้าเราสังเกตดี ๆ ผนังทุกด้านของห้องจะมีทั้งช่องแสงและช่องเปิดเต็มไปหมด ข้อดีก็คือเราไม่ต้องมาคอยแก้ปัญหาเรื่องของความอึดอัดอีกต่อไป แต่ข้อเสียก็คือเราจะวางเฟอร์นิเจอร์ลงไปอย่างยากเย็น ดังนั้นผนังด้านทึบที่ยาวที่สุดซึ่งก็คือฝั่งตรงข้ามกับเตียงนอน จึงถูกเราจับจองให้เป็นที่วาง ตู้เสื้อผ้า ไปโดยปริยาย แต่ปัญหาก็ยังไม่จบแค่นั้นค่ะ เนื่องจากด้านนี้แม้จะเป็นด้านที่ยาวที่สุด แต่ก็เป็นด้านที่เป็นทางผ่านไปยังห้องน้ำ ซึ่งหมายความว่าเรานอนเอาเท้าชี้ไปที่ประตูห้องน้ำเต็ม ๆ แม้ไม่มีความรู้เรื่องฮวงจุ้ยแต่ก็เชื่อว่าการจัดวางแบบนี้ไม่เวอร์คแน่ ๆ
เท่านั้นยังไม่พอเรายังต้องแบ่งตู้เสื้อผ้าออกเป็น 2 ส่วนพร้อม ๆ กันด้วยค่ะ แต่ก็ไม่เป็นไรแยกเป็นฟังก์ชันชายหญิงก็ยังพอมีเหตุผลเพียงพอ พอจัดการเรื่องการจัดวางในส่วนนี้ลงตัวก็มาถึงการเลือก หน้าบานตู้ ในตอนแรกเราเลือกหน้าบานตู้แบบเป็นกระจกเงาเพื่อช่วยในเรื่องของการพรางตา ให้ห้องดูกว้างขึ้น และใช้ทดแทนโต๊ะเครื่องแป้งที่ต้องตัดออกไปเนื่องจากปัญหาเรื่องขนาดห้องไม่ ลงตัว แต่ในที่สุดกระจกเงาก็ต้องยกเลิกไปเหมือนกัน เพราะการที่เรานอนแล้วปลายเท้าหันไปยังกระจกเงาเป็นการผิดฮวงจุ้ยแบบเต็มๆ (ลองนึกถึงภาพตอนตื่นมาอย่างงัวเงีย แล้วลุกขึ้นมาเจอหน้าตัวเองในกระจกสิคะว่าจะน่ากลัวแค่ไหน ไม่ต้องฮวงจุ้ยก็สมควรเปลี่ยนแปลงค่ะ) สุดท้ายก็มาลงตัวที่ หน้าบานกระจกฝ้า นอกจากความโปร่งที่ได้แล้วความเป็นส่วนตัวก็ยังไม่เสียไปด้วย
แล้วเราก็แก้ปัญหาเรื่องมุมมองทางเข้าห้องน้ำได้สำเร็จ วิธีแก้ไขก็คือ เราทำประตูหน้าบานตู้เพิ่มขึ้นอีก 1 บานเพื่อหลอกว่าเป็นหน้าบานตูเสื้อผ้า แต่ในความเป็นจริงแล้วพอเลื่อนบานนี้ไปทางซ้ายมือเราก็จะเห็นประตูทางเข้า ห้องน้ำเหมือนเดิมค่ะ ( ใครจะเอาไปใช้เราก็ยินดีค่ะ) ใครไม่รู้ความจริงดูเผิน ๆ ก็อาจจะคิดว่าตู้นี้ยาว 3 ม. อย่างแน่นอน
อันดับต่อมา เรามีความจำเป็นต้องวาง เตียงไว้ตรงข้ามกับตู้ เสื้อผ้า เนื่องจากพื้นที่อำนวยมากที่สุด ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจว่าจะสนุกมั้ยที่ต้องนอนมองตู้อยู่ทุกๆวันน่ะค่ะ ( ต้องทำใจนิดนึงนะคะ )แบบของเตียงเราเลือกแบบที่หัวเตียงนุ่ม ๆ ค่ะ จะได้ไม่รู้สึกถึงความกระด้างและแข็งของหัวเตียงกัน ปัญหาอันดับต่อมา ผนังด้านหัวเตียงที่ เราทำเป็นชั้นวางของโชว์ 2 ด้านนั้น เดิมทีเป็นช่องเสาที่ไม่สามารถใช้ประโยชน์อะไรได้เลยค่ะ และถ้าเราไม่ลงมือบิวท์ชั้นไม้ลงไปล่ะก็ป่านนี้คงเป็นมุมกักฝุ่นอย่างแน่น นอน

ตู้เก็บของสีพ่นขาวกึ่งหน้าบานเปิด โครงคร่าวไม้เนื้อแข็ง คุณภาพเกรดA. ประกอบและติดตั้งเฟอร์นิเจอร์บิวท์ด้วยทึมงานมืออาชีพ
มาต่อกันในส่วนที่ 2 ของห้อง เราเลือกส่วนนี้ให้เป็นส่วนของความบันเทิง ซึ่งแยกขาดจากส่วนพักผ่อนโดยมีประตูเข้าห้องคั่นค่ะ มุมนี้เราวาง ไซด์บอร์ดและโซฟาลงไป ถ้าจะเลือกความบันเทิงก็ต้องมาใช้บริการกันในมุมนี้เลย
บรรยากาศของห้องเลือกสีสันในโทนสบาย ๆ สีเฟอร์นิเจอร์เป็นสีเมเปิ้ลที่ จะออกมาในแนวสว่าง จะได้ไม่ทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัดเนื่องจากความเข้มของสีที่เลือกใช้ ส่วนสีประกอบต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียงหรือหัวเตียง ก็จะออกมาในแนวครีม-น้ำตาล ให้เกิดมิติของสีสันสร้างความน่าสนใจในห้องนี้ขึ้นมาได้ค่ะ
เรื่องของผ้าม่าน เราเลือกเป็นแบบคอกระเช้าสร้างบรรยากาศสบาย ๆ พลิ้ว ๆ ให้ห้องนอน มากกว่าการที่เลือกใช้ผ้าม่านเป็นแบบมู่ลี่ปรับแสงแข็ง ๆ ค่ะ
สีของผนังเปลี่ยนใหม่เป็นสีครีม ให้เข้ากันกับโทนสีโดยรวมของห้อง และใช้กรอบรูปสีดำติดลงไปบนผนังเพื่อสร้างความ Contrast ที่น่าสนใจให้ผนังเรียบ ๆ ในราคาประหยัดค่ะ ที่บอกว่าประหยัดก็คือเราเอาภาพถ่ายหรือภาพวาดฝีมือเราเองไปใส่กรอบ ค่าใส่กรอบก็ตกอยู่ที่กรอบละ 200 – 300 บาทค่ะ นอกจากไม่แพงแล้วยังภูมิใจได้อีกด้วยนะคะ
ส่วนของตกแต่งที่เหลือก็ขึ้นอยู่ที่ความชอบส่วนตัวของผู้เป็นเจ้าของค่ะ ไม่มีถูกมีผิดอย่างแน่นอนเอาที่ความชอบของเราเป็นหลักน่าจะดีที่สุด แต่ถ้าความชอบอาจจะรุนแรงไปนิด เช่น ชอบสีแดงเป็นชีวิตจิตใจล่ะก็ลองสะกิดถามคนข้าง ๆ สักนิดก็จะดีนะ
บรรยายภาพ
1. ห้องโล่ง ที่ปัญหาจะตามมาอีกเพียบ
2. บรรยากาศใหม่แยกฟังก์ชันเป็น 2 ส่วน ทำให้ต้องนอนมองดูตู้เสื้อผ้าอย่างเลี่ยงไม่ได้
3. ชั้นหัวเตียงที่บิวท์จากช่องเสาของเดิม
4. บนเตียงนอนนุ่ม ๆ ที่ช่วยทอนความแข็งของตู้ไปได้บ้างและเลือกความบันเทิงจากโน๊ตบุ๊กคู่ใจแทน
5. ตู้เสื้อผ้าลึกลับที่เปิดไปเป็นห้องน้ำส่วนตัว
6. ฝั่งเดียวกับตู้เป็นโซฟากึ่งนั่งกึ่งนอน
7. มุมบันเทิงเล็กๆ ที่ยังรอเครื่องใช้ไฟฟ้าทันสมัยอยู่
8. มุมมองจากภายในห้องน้ำออกสู่ภายนอก
9. มุมต่อเนื่องจากเตียงนอนไปยังฝั่งของความบันเทิง
10. นอนบนโซฟามุมนี้ สามารถมองชื่นชมสวนด้านล่างได้
BY : นิตยสาร Decoration Guide Magazine